cookie

ما از کوکی‌ها برای بهبود تجربه مرور شما استفاده می‌کنیم. با کلیک کردن بر روی «پذیرش همه»، شما با استفاده از کوکی‌ها موافقت می‌کنید.

avatar

🇹🇭Thai Awakening☀️

เผยแพร่ข้อมูล/เรื่องราวที่ถูกปิดบังสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาความจริงที่ไม่สามารถหาได้จากสื่อกระแสหลัก

نمایش بیشتر
تايلندتایلندی1 336دسته بندی مشخص نشده است
پست‌های تبلیغاتی
317
مشترکین
اطلاعاتی وجود ندارد24 ساعت
+17 روز
-130 روز

در حال بارگیری داده...

معدل نمو المشتركين

در حال بارگیری داده...

"ความเชื่อและความกลัวมีอิทธิพลอย่างมากต่อจิตใจ" จุดอ่อนนี้ของมนุษย์ถูกใช้โดยผู้มีอำนาจ เพื่อหล่อหลอมสังคมโลกของเรา ผู้คนถูกชักจูงให้เชื่อว่าทุกอย่างในโลกล้วนมีอันตราย และมีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่สามารถให้ความคุ้มครองได้ด้วยความเชื่อว่าเป็นองค์กรที่ใหญ่และมีความรู้มากกว่าชุมชนหรือแต่ละบุคคล คนที่เชื่อเช่นนี้ย่อมจะไม่เชื่อมั่นในตัวเอง ขาดความคิดที่เป็นอิสระ ยอมให้ผู้อื่นคิดแทนตัดสินใจแทน เชื่อทุกอย่างที่ถูกสอน เชื่อผู้เชี่ยวชาญ เชื่อฟังผู้มีอำนาจ ทำทุกอย่างตามระเบียบและคำสั่ง เพียงเพื่อให้รู้สึกว่าได้รับการปกป้องให้ปลอดภัย ผู้มีอำนาจใชัความกลัวและความเกลียดชังเป็นเครื่องมือ ความกลัวทำให้ขาดความคิดที่มีเหตุผล การคุกคามและความรุนแรงซึ่งแท้จริงแล้วเกิดมาจากผู้มีอำนาจสร้างความกลัวให้ผู้คนเพื่อให้ยอมเชื่อฟังและยอมถูกควบคุม และยังโฆษณาชวนเชื่อยุยงให้ผู้คนช่วยกันควบคุมผู้ที่ไม่ทำตามคำสั่งของพวกเขา เราเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น แต่เราถูกบอกว่าข้อมูลเหล่านั้นถือเป็นข้อมูลที่บิดเบือน หรือแย่กว่านั้นคือเป็นอันตราย หากไม่ใช่มาจากผู้มีอำนาจ จะเป็นอย่างไรถ้าเราตระหนักว่าการสาธารณสุขถูกบิดเบือนด้วยระเบียบและกฎเกณฑ์ที่สร้างผลกำไรให้ธุรกิจยักษ์ใหญ่และการคอรัปชั่นของนักการเมืองอย่างมหาศาล โดยไม่มีความเกี่ยวข้องกับสุขภาพที่แท้จริงเลย จะเป็นอย่างไรถ้าเราพบว่าสิ่งต่างๆ ไม่ใช่อย่างที่เห็น การโฆษณาชวนเชื่อโดยสื่อที่ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ ลากผู้คนเข้าสู่ทรายดูดแห่งความเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ ความล้มเหลวและความเสียหายที่เกิดจากผู้มีอำนาจถูกกวาดไปไว้ใต้พรมเพื่อให้เกมความเชื่อดำเนินต่อไป การรับรู้ข่าวสารข้อมูลด้วยสติและสัมปชัญญะเท่านั้น ที่จะทำให้ชีวิตเราไม่ถูกชี้นำด้วย "เรื่องเล่า (narrative)" จากผู้เชี่ยวชาญและสื่อ เราสามารถดึงพลังอำนาจของเราเองที่มอบให้นักการเมืองกลับคืนมาได้ เราไม่ได้อ่อนแอหรือไร้ค่า เราสามารถหยุดเป็นผู้ตามและเป็นอิสระได้อย่างแท้จริง ด้วยการพึ่งตัวเองและร่วมกันสร้างชุมชนที่พึ่งพากันเองได้ เพื่อชีวิตที่สงบสุขมากขึ้นและสุขภาพที่ดีขึ้น
نمایش همه...
👍 1
เรื่องของ ทรูแมน เบอร์แบงค์ (จิม แคร์รี) ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตมากว่า 3 ทศวรรษ โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ชีวิตของเขาถูกถ่ายทอดสดอยู่ในรายการเรียลลิตี้โชว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทุกคนที่เขารู้จัก ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน หัวหน้างาน พนักงานร้านขายของ ฯลฯ ล้วนเป็นทีมงานของรายการที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรายการเรียลลิตี้นี้ บ้านทุกหลัง ถนนทุกสาย เสื้อทุกตัวของคนในรายการ (หรือก็คือในหมู่บ้านของทรูแมน) มีกล้องจิ๋วสอดติดไว้ลับๆ พร้อมจะถ่ายทอดการกระทำของทรูแมนออกไปให้โลกภายนอกได้ดู ขณะที่ทรูแมนไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลยว่า ทั้งชีวิตของเขานั้นเป็นการจัดฉากโดยโปรดิวเซอร์รายการที่คอยจัดฉากต่างๆ ให้ทรูแมนมาตลอด ทั้งยังวางจุดขายให้ทรูแมนเป็น ‘ชายที่ทุกคนเอ็นดู’ จนรายการที่ประสบความสำเร็จถล่มทลาย “เรายอมรับความเป็นจริงของโลกตามที่เราถููกนำเสนอ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ” https://rumble.com/v3yivj1--the-truman-show-1998.html “We accept the reality of the world with which we’re presented. It’s as simple as that.” https://rumble.com/v3yk8k1-the-truman-show-1998.html
نمایش همه...
ทรูแมน โชว์ (The Truman Show - 1998) - พากย์ไทย

ทรูแมน โชว์ (The Truman Show - 1998) แฝงปริศนาเปรียบเปรยเกี่ยวกับความเป็นจริงของมนุษยชาติและสท้อนให้เห็นภาพของสังคมโลกในอีก 20 ปีต่อมาได้อย่างแม่นยำ

👍 2
Photo unavailableShow in Telegram
👍 3🔥 1
Photo unavailableShow in Telegram
👍 1🔥 1
เมื่อบอกเพื่อนว่า "ทุกวันนี้ คนที่ไม่เชื่อว่าโลกหมุนรอบตัวเองมีมากขึ้นเรื่อยๆ" เพื่อนหัวเราะแล้วบอกว่า "ยังมีคนเชื่ออย่างนั้นจริงๆหรือ?" เราถูกสอนว่ามีกลางวันกลางคืนเพราะโลกกลมๆของเราหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ ในทุก 24 ชั่วโมง และนักวิทยาศาสตร์ก็บอกว่าโลกหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วมากกว่า 1,500 กิโลเมตรต่อวินาที ณ เส้นศูนย์สูตร ซึ่งเร็วกว่าความเร็วสูงสุดของรถแข่งฟอร์มูลา 1 กว่า 14,000 เท่า แต่เราไม่เคยมีความรู้สึกถึงการเคลื่อนที่นั้นเลย คำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายคือ: 1. ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกรวมทั้งอากาศที่อยู่รอบตัวเรา ถูกหมุนให้เคลื่อนที่ไปพร้อมกันด้วยความเร็วคงที่โดยไม่มีอัตราเร่ง เปรียบเหมือนเรานั่งอยู่ใน รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วสูงและยุงก็ยังบินอยู่ในรถได้ หรือบนเครื่องบินที่วิ่งด้วยความเร็วสูงมากและแอร์โฮสเตสก็ยังเสิร์ฟกาแฟให้เราดื่มได้ 2. การหมุน 1 รอบใน 24 ชั่วโมง เป็นการเคลื่อนที่ที่ช้ามากเราจึงไม่รู้สึก โดยเปรียบเทียบว่าหากเราหมุนเครื่องซักผ้าด้วยความเร็ว 1 รอบ ใน 24 ชั่วโมง ย่อมซักผ้าและปั่นแห้งไม่ได้ แต่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายไม่ได้ อธิบายก็คือ: 1. ยุงที่บินอยู่ในรถยนต์ได้ และแอร์โฮสเตสเสริฟกาแฟบนเครื่องบินได้ ก็เพราะยุงนั้นอยู่ในรถที่ปิดประตูและ หน้าต่างสนิท จนอากาศแวดล้อมภายในถูกแยกออกจากอากาศที่แวดล้อมอยู่ภายนอกอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับบนเครื่องบินที่แอร์โฮสเตสเสิร์ฟกาแฟได้ ก็เพราะทุกสิ่งที่อยู่ในรถหรือเครื่องบินนั้นอยู่ใน "ระบบปิด" ด้วยกันทั้งหมด แต่เราถูกสอนด้วยว่าโลกของเราเป็นลูกบอลกลมที่หมุนอยู่ในอวกาศโดยไม่มีอะไรห่อหุ้ม นั่นคือทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นโลกอยู่ใน "ระบบเปิด" 2. วงรอบการหมุนของโลกใหญ่กว่าวงรอบการหมุนของเครื่องซักผ้ามากกว่า 3 ล้านเท่า หมายความว่า ที่ความเร็วรอบเท่ากัน สิ่งของที่อยู่บนวงรอบการหมุนของโลกนั้นเคลื่อนที่เร็วกว่ามากกว่า 3 ล้านเท่า คำถามที่ผู้เชี่ยวชาญต้องตอบคือ: 1. หากประตูหน้าต่างของรถและเครื่องบินถูกเปิดไว้ในขณะเคลื่อนที่เพื่อให้เป็น "ระบบเปิด" เช่นเดียวกับบนพื้นโลกของเรา แล้วยุงจะยังคงบินได้ไหม? แอร์โฮสเตสจะยังคงเสิร์ฟกาแฟได้ไหม? ซึ่งเป็นเรื่องที่ทดลองหาคำตอบได้แน่นอน 2. รู้หรือไม่ว่า เมื่อเครื่องซักผ้าและโลกหมุนด้วยความเร็วรอบเท่ากัน จะส่งผลต่อสิ่งที่อยู่บนวงรอบการหมุนต่างกันมากกว่า 3 ล้านเท่า? เรื่องนี้ทำการทดลองยาก แต่ทดลองทางความคิด (thought experiment) หรือทำการคำนวณได้ง่ายมาก นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของสิ่งที่เราถูกสอนและคนส่วนใหญ่ก็เชื่อ ซึ่งขัดแย้งกับการรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสที่ธรรมชาติให้เรามาเป็นเครื่องมือสำหรับเรียนรู้ความเป็นจริงในชีวิต เราถูกธรรมชาติหลอก หรือถูกคนหลอก? ตัดสินกันเองนะครับ
نمایش همه...
👍 8
Photo unavailableShow in Telegram
~ดวงตาไร้ประโยชน์ เมื่อจิตใจมืดบอด~ เราเห็นด้วยตา เข้าใจสิ่งที่เห็นด้วยจิตของเรา  การเชื่อในบางสิ่งเพียงเพราะมันเป็นข่าว หรือเพราะคนส่วนใหญ่เขาเชื่อกัน หรือเพราะผู้เชี่ยวชาญเขาบอกมา โดยไม่คิดถึงตรรกะและเหตุผล คือ "ความเชื่อแบบคนตาบอด" ที่ทำชีวิตต้องเดินไปตามเส้นทางที่คนอื่นกำหนดให้ ผู้คนต่างย่อมมีความคิดเห็นของตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ผิดหากทำตามความคิดเห็นนั้นโดยไม่ได้ค้นหาความจริง ความเชื่อในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริงเป็นพลังด้านลบที่นำพาเราไปในทางที่ผิด ส่งผลร้ายต่อเราเองและสังคมโดยรวม การแสวงหาปัญญาด้วยตนเอง อย่างมีสติ คือการเป็นกัปตันชีวิตให้ตัวเอง และทำให้เราได้พบสิ่งดีๆ มากมายในชีวิต
نمایش همه...
1
Photo unavailableShow in Telegram
👍 3
Photo unavailableShow in Telegram
ความจริงก็คือ ผู้ที่หลงเชื่อเรื่อง "อำนาจ" ไม่สามารถจะมีอิสระภาพได้ เพราะการยอมรับมายาคติของ "รัฐบาล" ก็คือยอมรับว่าต้องเชื่อฟัง "เจ้านาย" นั่นคือยอมรับความเป็นทาสของตัวเอง คนส่วนมากเชื่อว่า สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ก็คือการร้องขอเจ้านายผ่านกระบวนการทางการเมือง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าร่วมใน "พิธีกรรม" ที่ทำให้ระบบทาสกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องตลอดไปแทนที่จะเพียงแค่หยุดเชื่อฟังเผด็จการ การขัดขืนอำนาจและฝ่าฝืนกฎหมายนั้น เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับพวกเขามากกว่าการยอมเป็นทาส
نمایش همه...
ภาพลวงตา "ประชาธิปไตย" ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคือคนที่ยอมตัวเป็น"ทาส"ไปลงคะแนนเลือก นักการเมืองให้มาเป็น"นายทาส"ของตน และไม่ว่าจะได้นักการเมืองคนไหนหรือกลุ่มไหนเข้ามา ทุกคนก็จะต้องทนอยู่กับการยอมให้นายทาสเป็นผู้ออกกฎมาควบคุมสิทธิ (right) ต่างๆ ของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่ทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด (inalienable rights) เช่น สิทธิในการหาเลี้ยงชีพ การเดินทางไปไหนมาไหน เสรีภาพในการพูดและการชุมนุม การปกป้องตัวเองจากการถูกคุกคาม และสิทธิจอมปลอม (fake rights) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนหลงคิดว่าการจะมีชีวิตที่ดีจำเป็นต้องพึ่งพานักการเมือง เช่น สิทธิการมีที่อยู่อาศัย รับการดูแลสุขภาพ รับการศึกษา รับสวัสดิการและความช่วยเหลือต่างๆ หากผู้คนมีสติ (conciousness) สูงพอที่จะพิจารณาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ก็จะตระหนักรู้ได้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ผิด (not right) นายทาสจึงต้องทำการปลูกฝัง (indoctrinate) ผู้คนด้วยระบบการศึกษา การโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อทุกแขนงอย่างมากมายและเป็นระบบ สร้างความกลัวด้วยการก่อการร้าย สงคราม โรคระบาด และภัยพิบัติ เพื่อเป็นมนต์สะกดให้ผู้คนไม่อาจมีสติพอที่จะรู้ตัวได้ ต้องเชื่อฟังและพึ่งพานายทาสที่ตนเองยกให้เป็น "ผู้มีอำนาจ" ตลอดเวลา โดยไม่คิดพึ่งพาตนเอง ไม่กล้ารับผิดชอบตัวเอง ไม่รู้จักคิดวางระบบเพื่อการพึ่งพาซึ่งกันและกันเองโดยไม่ต้องคร่ำครวญอ้อนวอนร้องขอด้วยวิธีการสารพัด เช่น ยื่นหนังสือประท้วง อุทธรณ์ ฎีกา หรือชุมนุมประท้วงนักการเมืองที่ตัวเองเลือกให้มาเป็นนายทาสบงการชีวิต ผู้ที่งมงายกับระบอบประชาธิปไตยจนหลงเข้าใจว่านักการเมืองคือ "ผู้มาโปรด" จำเป็นต้องยกระดับสติให้สูงขึ้นจนสามารถมองทะลุผ่านเมฆหมอกหมอกของความเหลวไหลที่อยู่ในจิตใจได้ จึงจะมีเสรีภาพและหลุดพ้นจากความอยุติธรรมและความทุกข์ยากจากระบบทาสโดยสมัครใจได้อย่างแท้จริง
نمایش همه...
👍 5
Photo unavailableShow in Telegram
สังคมเราน่าห่วงเพราะเยาวชนรู้จักคิดและไม่ยอมรับการปลูกฝังให้เอาแต่เชื่อฟัง ?!?! หรือเพราะผู้ใหญ่ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กให้ต้องเชื่อฟังจนไม่รู้จักโตและคิดเองไม่เป็น?
نمایش همه...
یک طرح متفاوت انتخاب کنید

طرح فعلی شما تنها برای 5 کانال تجزیه و تحلیل را مجاز می کند. برای بیشتر، لطفا یک طرح دیگر انتخاب کنید.